วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เตรียมเอกสารดีมีชัยไปกว่าครึ่ง


credit : Facebook KTB Care

รับดอกเบี้ยเต็มๆ 3.5 % ภาษีไม่มากวนใจ

เลือกออมเงินอย่างชาญฉลาด เลือกบัญชีเงินฝาก KTB Zero Tax Extra ฝากเงินสม่ำเสมอทุกเดือนตลอด 24เดือน ได้รับการยกเว้นภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก 15%
จุดเด่น
  • ได้รับดอกเบี้ย 3.50% ต่อปี  คงที่ตลอดระยะเวลาฝาก (รับฝากตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิย. 57)
  • คำนวณดอกเบี้ยทุกวันจากยอดคงเหลือในบัญชี ด้วยอัตราดอกเบี้ยตามประกาศ และจ่ายดอกเบี้ยให้เมื่อครบกำหนดระยะเวลาการฝาก
  • ได้รับการยกเว้นภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก 15%
  • เหมาะสำหรับบุคคลทั่วไปที่เห็นความสำคัญของการสร้างวินัยและวางแผนทางการเงิน
เงื่อนไขการฝาก
  • เปิดบัญชีขั้นต่ำ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท
  • ฝากติดต่อกันทุกเดือน เดือนละ 1 ครั้ง เป็นจำนวนเงินเท่ากับที่เปิดบัญชี
  • ผู้ฝากสามารถฝากได้ทุกวันในเวลาทำการของธนาคารภายในเดือนนั้นๆ
  • รับฝากเป็นเงินสด หรือ เช็คของสาขาตนเอง หรือเช็คภายในท้องถิ่นที่สามารถเรียกเก็บเงินได้ภายในวันเดียวหรือภายในเดือนเดียวกับวันที่นำฝาก
  • ในระยะเวลาฝาก 24 เดือน จะขาดการฝากได้ไม่เกิน 2 ครั้ง
  • เงินฝากที่ฝากไม่ถึง 3 เดือนไม่จ่ายดอกเบี้ย
  • เงินฝากที่ฝากมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือนแล้วมีเหตุไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือฝากต่อได้หรือถอนเงินก่อน ครบกำหนด จะจ่ายดอกเบี้ยในอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ และจะต้องเสียภาษีสำหรับดอกเบี้ยเงินฝากนั้น
  • เมื่อครบกำหนดฝาก ธนาคารจะโอนดอกเบี้ยเข้าบัญชีคู่โอน (บัญชีเงินฝากออมทรัพย์หรือกระแสรายวัน) สำหรับเงินต้นจะโอนเข้าบัญชีเงินฝากประจำ 3 เดือน หรือบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ หรือบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน ตามที่ผู้ฝากเงินได้แจ้งไว้กับธนาคาร
credit : Line KTB Care

วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ธนาคารกรุงไทยประสบความสำเร็จขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิตามเกณฑ์ Basel III ต่อนักลงทุนต่างชาติ

23 มิ.ย. 2557
ธนาคารกรุงไทยประสบความสำเร็จขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิตามเกณฑ์ Basel III ต่อนักลงทุนต่างชาติ
ธนาคารกรุงไทยเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยแห่งแรกที่เสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิตามเกณฑ์ Basel III ต่อนักลงทุนต่างชาติ โดยมียอดจองซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิในครั้งนี้สูงถึง 3,800ล้านเหรียญสหรัฐ สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจในประเทศไทย
 
ธนาคารกรุงไทยเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยแห่งแรกที่เสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิตามเกณฑ์ Basel III ต่อนักลงทุนต่างชาติ โดยมียอดจองซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิในครั้งนี้สูงถึง 3,800ล้านเหรียญสหรัฐ สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจในประเทศไทย
 
            นางกิตติยา โตธนะเกษม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานบริหารการเงิน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมผู้บริหารระดับสูงของธนาคารกรุงไทยได้เดินทางพบนักลงทุนในต่างประเทศ (Road Show) เพื่อเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ซึ่งธนาคารพบว่านักลงทุนมีความสนใจสอบถามถึงแนวโน้มสภาวะเศรษฐกิจ ข้อมูลผลการดำเนินงานและแผนดำเนินธุรกิจของธนาคารกรุงไทย
 
แม้ว่าหุ้นกู้ด้อยสิทธิตามเกณฑ์ Basel III ที่ธนาคารเสนอขายในครั้งนี้จะมีเงื่อนไขซับซ้อนกว่าหุ้นกู้ด้อยสิทธิในลักษณะเดิม แต่นักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นในพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศไทย และความแข็งแกร่งของธนาคารกรุงไทย จึงมีความสนใจลงทุนในหุ้นกู้ฯ มากกว่าที่ธนาคารคาดหวังไว้ ทำให้ธนาคารตัดสินใจเพิ่มจำนวนเงินที่ต้องการในการระดมทุนจากเดิมจำนวน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นจำนวน 700 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยการระดมทุนดังกล่าวจะทำให้เงินกองทุนของธนาคารเพิ่มขึ้น อีกประมาณ 1% และส่งผลให้ธนาคารกรุงไทยในฐานะธนาคารพาณิชย์แห่งเดียวของประเทศไทยที่มีรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และมีขนาดสินเชื่อและเงินฝากใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย มีความพร้อมที่จะขยายธุรกิจตามสภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยที่คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2557

แบงก์แอสชัวร์รันส์กรุงไทยฉลุย 5 เดือนแรกยอดเบี้ยใหม่โต 40%

12 มิ.ย. 2557
แบงก์แอสชัวร์รันส์กรุงไทยฉลุย 5 เดือนแรกยอดเบี้ยใหม่โต 40%
ธนาคารกรุงไทย เผย 5 เดือนแรก มียอดเบี้ยประกันใหม่กว่า 5,800 ล้านบาท เฉพาะเดือนพฤษภาคมเดือนเดียวทำได้ถึง 2.5 เท่าของเป้าหมาย ทำลายสถิติสูงสุด ชี้เป็นผลจากการทำ Transformation และการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้า เดินหน้าขยายตลาดจากฐานลูกค้าที่มีอยู่กว่า 12 ล้านราย  
 
นายเวทย์ นุชเจริญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยภาพรวมการดำเนินธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ของธนาคารในช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมาว่า  ธนาคารมีเบี้ยประกันชีวิตและวินาศภัยใหม่กว่า  5,800 ล้านบาท เติบโต 40 % ซึ่งโดดเด่นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพียงเดือนเดียวสามารถทำยอดขายจากเบี้ยรับปีแรกมูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท สูงถึง 2.5 เท่าของเป้าหมายรายเดือน และเป็นยอดขายที่ทำลายสถิติสูงสุด โดยมาจากยอดขาย i-SAVE แผนประกันแบบออมทรัพย์ระยะสั้น มูลค่ากว่า 1,800 ล้านบาท 
 
“ผลสำเร็จดังกล่าวเกิดจากการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน หรือการทำโครงการ KTB Transformation ที่เริ่มเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ทำให้สาขามีเวลาในการดูแลลูกค้า รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นเพราะการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ของลูกค้า  เช่น  ประกันแบบออมทรัพย์ระยะสั้น ให้ผลตอบแทนสูง ไม่ต้องตรวจสุขภาพ และมีทุนคุ้มครองชีวิต ซึ่งธนาคารได้แสดงความยินดีกับ มร.เดวิด โครูนิช ประธานกรรมการบริหาร บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต กับความสำเร็จในครั้งนี้ และยังคงร่วมกันเสนอผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าต่อไป”
 
นายเวทย์ นุชเจริญ กล่าวต่อไปว่า สำหรับในครึ่งปีหลัง ธนาคารมั่นใจว่า แบงก์แอสชัวรันส์ของธนาคารจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสขยายตลาดได้อีกมาก จากฐานลูกค้ารายย่อยของธนาคารที่มีมากกว่า 12 ล้านราย อีกทั้งธนาคารยังได้ตั้งทีมงานเฉพาะขึ้น เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันสำหรับลูกค้าองค์กรรายใหญ่ และลูกค้าในภาคเอกชน  รวมทั้งร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ  เพื่อสนับสนุนการเติบโตแก่ลูกค้าอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ Growing Together กรุงไทย ก้าวไกล ไปกับคุณ
ทางด้าน มร.เดวิด โครูนิช เปิดเผยว่า ความสำเร็จในครั้งนี้เป็นผลจากการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และความร่วมมือในการบริหารงานอย่างดีเยี่ยม ประกอบกับความเข้าใจในลูกค้าอย่างลึกซึ้งของธนาคารกรุงไทย ผสานความชำนาญทางด้านประกันชีวิตของกรุงไทย-แอกซ่า รวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ i-SAVE แผนประกันแบบออมทรัพย์ระยะสั้น ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี 
 

วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557

กรุงไทยมอบโชคผู้ชำระหนี้กยศ.

10 มิ.ย. 2557
กรุงไทยมอบโชคผู้ชำระหนี้กยศ.
ธนาคารกรุงไทย ร่วมกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จัดโครงการลดหนี้ กยศ.ลุ้นโชคปีที่ 6
เพื่อสร้างวินัยการชำระหนี้ เพิ่มเงินหมุนเวียนให้รุ่นน้อง โดยผู้ชำระหนี้ภายใน 30 มิถุนายนนี้ มีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลมูลค่ารวม 3 แสนบาท

นางสาวอาริศรา ธรมธัช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจภาครัฐ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้ร่วมกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จัดโครงการลดหนี้กยศ.ลุ้นโชค ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6
เพื่อรณรงค์สร้างจิตสำนึกการมีวินัยในการชำระหนี้ และเพิ่มเงินหมุนเวียนให้รุ่นน้องได้มีโอกาสกู้เงิน
เพื่อการศึกษา ซึ่งในปีนี้มีผู้ครบกำหนดชำระหนี้กว่า 2.7 ล้านราย โดยผู้กู้ยืมเงินที่ชำระหนี้ผ่านช่องทางต่างๆ
ของธนาคาร ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2557 มีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลมูลค่ารวม 3 แสนบาท ได้แก่ Apple Set ประกอบด้วย Macbook Pro 13 inch 256 GB, iPhone 5S 16 GB และ iPad Air Wifi Cellular 32 GB มูลค่า 100,000 บาท จำนวน 1 รางวัล โทรศัพท์มือถือ iPhone 5S 16 GB มูลค่า 25,000 บาท จำนวน 4 รางวัล และทองคำแท่ง หนัก 2 สลึง มูลค่า 10,000 บาท จำนวน 10 รางวัล

“สำหรับกติกาโครงการ ผู้ชำระหนี้ผ่านช่องทางต่างๆของธนาคาร ได้รับสิทธิ์ 1 สิทธิ์ ในการลุ้นรับรางวัล และ
ผู้ชำระโดยหักบัญชีอัตโนมัติได้รับสิทธิ์พิเศษ 2 สิทธิ์ โดยสามารถชำระเงินกู้ผ่านเคาน์เตอร์สาขากว่า 1,200 แห่ง
ทั่วประเทศ เครื่องฝากถอนเงินอัตโนมัติ ATM / ADM กว่า 9,600 เครื่อง บริการ KTB netbank และ เทเลแบงค์กิ้ง 1551 หรือหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ”

นางสาวอาริศรา ธรมธัช กล่าวต่อไปว่า ธนาคารจะจับฉลากรายชื่อผู้โชคดีในวันที่ 25 กรกฎาคม 2557 และประกาศรายชื่อในวันที่ 28 กรกฎาคม 2557 ผ่านทางเว็บไซต์ www.studenloan.ktb.co.th กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ที่ www.studenloan.or.th สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา www.mua.go.th กระทรวงศึกษาธิการ www.moe.go.th และกรมประชาสัมพันธ์ www.prd.go.th"
 

วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557

อัตราดอกเบี้ย

อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก
          มีผลบังคับใช้ตตั้งแต่ วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2557

อัตราดอกเบี้ยเงินกู้
          มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2557


ดอกเบี้ย คือ
          ผลตอบแทนที่ผู้ฝากเงินได้รับจากการฝากเงินไว้กับสถาบันการเงิน หรือที่เรียกว่า ดอกเบี้ยเงินฝากผลตอบแทนที่ผู้ให้สินเชื่อได้รับจากผู้ขอสินเชื่อ ซึ่งในกรณีนี้จะหมายถึง สถาบันการเงิน และผู้ประกอบธุรกิจการเงินที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-bank) หรือที่เรียกว่า ดอกเบี้ยเงินกู้    ผลตอบแทนอาจอยู่ในรูปของตัวเงิน ทรัพย์สิน หรือสิ่งของต่าง ๆ ที่คิดคำนวณเป็นเงินได้ เช่น ธนาคารพาณิชย์แจกของสมนาคุณให้กับลูกค้า อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เป็นต้น เพื่อจูงใจให้ฝากเงินไว้กับธนาคาร ดังนั้น การคำนวณดอกเบี้ยที่ได้รับแท้จริงต้องรวมมูลค่าของสมนาคุณด้วย

อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก คือ
          อัตราดอกเบี้ยร้อยละต่อปีที่สถาบันการเงินจ่ายให้กับผู้ฝากเงิน เพื่อเป็นค่าตอบแทนที่ผู้ฝากนำเงินมาเปิดบัญชี เงินฝากไว้กับสถาบันการเงิน อัตราดอกเบี้ยเงินฝากมีหลายประเภท หลายอัตรา โดยขึ้นกับระยะเวลาการฝากเงินและเงื่อนไขการถอนเงิน เช่น อัตราดอกเบี้ยของบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่สามารถถอนเงินได้ตลอดเวลา จึงต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อท่านเลือกจะบริหารเงินโดยการฝากเงิน ควรเลือกประเภทการฝากเงินที่เหมาะสมกับรูปแบบการใช้ชีวิต (Lifestyle) ของท่าน เพื่อที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการฝากเงินนั้น

อัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ (ดอกเบี้ยอ้างอิง) คือ
          อัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่ธนาคารพาณิชย์ใช้อ้างอิงในการเรียกเก็บดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อจากลูกค้า ได้แก่ 

          MLR (Minimum Loan Rate) หมายถึง อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา เช่น มีประวัติการเงินที่ดี มีหลักทรัพย์ค้ำประกันอย่างเพียงพอ โดยส่วนใหญ่ใช้กับเงินกู้ระยะยาวที่มีกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน เช่น สินเชื่อเพื่อการประกอบธุรกิจ

          MOR (Minimum Overdraft Rate) หมายถึง อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี

          MRR (Minimum Retail Rate) หมายถึง อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อบัตรเครดิต เป็นต้น

          CPR (Consumer Product Rate) หมายถึง อัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำสำหรับสินเชื่อบุคคลที่ธนาคารประกาศกำหนด ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวและอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามที่ธนาคารประกาศ หากอัตราดอกเบี้ยและวิธีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยในสัญญานี้ขัดต่อกฎหมาย ประกาศ กฎกระทรวง หรือระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ถือเอาอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่ธนาคารอาจเรียกเอาจากผู้กู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่กฎหมายประกาศ กฎกระทรวง หรือระเบียบที่เกี่ยวข้องอนุญาตเป็นอัตราบังคับใช้ตามสัญญาข้อนี้ ณ วันที่ มกราคม พ.ศ.2549 อัตราดอกเบี้ย CPR = 18%  ต่อปี

วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2557

กรุงไทยให้บริการโอนเงินไปพม่า

28 พ.ค. 2557
กรุงไทยให้บริการโอนเงินไปพม่า

ธนาคารกรุงไทย ร่วมกับ Kanbawza Bank (ธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า) ให้บริการ ASEAN Payment Gateway โดยลูกค้าและแรงงานชาวเมียร์มาร์ สามารถโอนเงินไปยังสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ผ่านเคาน์เตอร์สาขาและเครื่อง ATM ธนาคารกรุงไทยได้สูงสุดครั้งละ 1 แสนบาท คิดค่าธรรมเนียมถูกที่สุดครั้งละ 150 บาท ลูกค้าที่สนใจสมัครใช้บริการได้ทุกสาขาทั่วประเทศ

วันพุธที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

แจ้งงดให้บริการสาขาและปิดทำการก่อนเวลาปกติ

26 พ.ค. 2557
แจ้งงดให้บริการสาขาและปิดทำการก่อนเวลาปกติ
ธนาคารขอแจ้งงดให้บริการสาขาและปิดทำการก่อนเวลาปกติ ดังนี้
 

สาขาที่ปิดทำการ
ชื่อสาขา
สาขาใกล้เคียงที่เปิดให้บริการตามปกติ
สาขาที่สามารถทำธุรกรรมแทน*
 1.  ทำเนียบรัฐบาล
  • กระทรวงศึกษาธิการ
  • สะพานขาว
  • ไวท์มอลล์ 
 2. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)
  • ตลาดใหม่ดอนเมือง
  • แจ้งวัฒนะ
  • สรงประภา
3. บิ๊กซี ปัตตานี  --

*สาขาที่สามารถทำธุรกรรมแทน คือ สาขาที่ท่านสามารถทำธุรกรรมได้เสมือนสาขาหลัก (สาขาเจ้าของบัญชี) ที่ท่านใช้บริการอยู่ อาทิ ปิดบัญชี เปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนตัวลูกค้า

สาขาที่ปิดก่อนเวลาทำการปกติ (คลิกชมได้ที่เอกสารแนบด้านล่าง)

ธนาคารขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้

credit : http://www.ktb.co.th/ktb/th/news-detail.aspx?nid=oyjnRwenxJeM1VARcWbYcg%3d%3d

กรุงไทยยุววาณิชประจำปี 2556 เดินทางไปศึกษาดูงาน ณ ประเทศอินโดนีเซีย บาหลี

22 พ.ค. 2557
กรุงไทยยุววาณิชประจำปี 2556 เดินทางไปศึกษาดูงาน ณ ประเทศอินโดนีเซีย บาหลี

ฝ่ายบรรษัทภิบาลและกิจกรรมเพื่อสังคม พาคณะอาจารย์และนักเรียนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ และรองชนะเลิศ รวมจำนวน 3 ทีม โครงการ “กรุงไทย ยุววาณิช” ประจำปี 2556 ได้แก่ บริษัท ม่านกกดุงวิทย์ พิชิตโลกร้อน จำกัด จากโรงเรียนบ้านดุงวิทยา จ.อุดรธานี, บริษัท รำลำมอนิ่งจำกัด จากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ และบริษัท Black Coffee จำกัด จากวิทยาลัยเทคโนโลยีพายัพและบริหารธุรกิจ จ.เชียงใหม่ ศึกษาดูงาน ณ ประเทศ อินโดนีเซีย บาหลี โดยได้เยี่ยมชม สวนวิษณุการูด้า สถานที่ตั้งรูปปั้นของพระวิษณุ(พระนารายณ์)ขนาดใหญ่และรูปปั้นของเทพการูด้า(ครุฑ) เทพเจ้าแห่งเสรีภาพของชาวฮินดูและเป็นพาหนะของพระวิษณุ ศึกษาดูงาน ณ โรงงานกาแฟ ชมขั้นตอนการผลิต และศึกษาดูงานโรงเรียน SMA Negeri 4 Denpasar ซึ่งเป็นโรงเรียนอันดับ 1 ในบาหลี อันเป็นการเปิดโลกทัศน์การเรียนรู้จากประสบการณ์จริงให้แก่นักเรียน ในระหว่างวันที่ 14-18 พฤษภาคม 2557

credit :
http://www.ktb.co.th/ktb/th/news-detail.aspx?nid=Ra07brTYty0QvKfBTgSD3Q%3d%3d

วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

โครงสร้างองค์กร (กรณีศึกษา)

รูปแบบการจัดองค์การของธนาคารกรุงไทย

ที่มาของภาพ :  http://www.ktb.co.th/
การจัดองค์การแบบโครงงสร้างแบบแมททริกซ์ (Matrix Structure)
         ธนาคารได้นำหลักของการบริหารความเสี่ยง และระบบ Matrix System เข้ามาประยุกต์ใช้ เพื่อให้เกิดการถ่วงดุล (Check & Balance) และปฏิบัติงานโดยตอบสนองในวัตถุประสงค์ต่างในเวลาเดียวกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในคุณภาพการดำเนินธุรกิจและการประสานร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ ในธนาคาร
          ธนาคารได้ยึดหลักเน้นการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) ซึ่งจะก่อให้เกิดระบบการถ่วงดุล (Check & Balance) มีการควบคุมความเสี่ยง (Risk Control) และผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน (Risk Owner) นอกจากนี้ ธนาคารยังเน้นรูปแบบ Matrix Organization ซึ่งเป็นการเน้นการทำงานโดยมุ่งให้บรรลุตามเป้าหมายหลักขององค์กรและเป้าหมายของหน่วยงานในเวลาเดียวกัน อีกทั้งเน้นการรวมศูนย์สำหรับงานเชิงนโยบายและกระจายเรื่องการปฏิบัติการแก่หน่วยงานเพื่อให้ได้งานที่เป็นมาตรฐานและคุณภาพเดียว wbr และเน้นความรับผิดชอบและความสัมพันธ์ของงานให้มีความชัดเจน เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Governance) และสร้างความน่าเชื่อถือ ส่วนผู้ถือหุ้น จะมีความมั่นใจว่าเงินลงทุนในธนาคารจะไม่สูญเปล่า และเสื่อมค่า รวมทั้งเชื่อมั่นในทิศทางที่ธนาคารจะเดินหน้าต่อไป และในท้ายที่สุด พนักงานมีความมั่นใจในทิศทางของธนาคาร สามารถเตรียมตัวปรับเพื่อให้รับกับทิศทางใหม่ สามารถตัดสินใจสำหรับอนาคตได้
ลักษณะการจัดองค์การของธนาคารกรุงไทย จำกัด( มหาชน )
         ธนาคารได้ปฏิบัติตามแนวทางโครงสร้างคณะกรรมการ เพื่อส่งเสริมบรรษัทภิบาลของธนาคารพาณิชย์ โดยจัดโครงสร้างการจัดการ ซึ่งประกอบไปด้วยคณะกรรมการรวม 7 ชุด ดังนี้
 1. Organization Chat รวมของทั้งระบบ      
1.             คณะกรรมการธนาคาร
คณะกรรมการธนาคารมีอำนาจเต็มในการบริหารงาน เพื่อประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ข้อบังคับของธนาคาร และมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ อยู่ภายใต้เงื่อนไขและข้อกำหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 
2.             คณะกรรมการบริหาร
การพิจารณากลั่นกรองหรืออนุมัติสินเชื่อ ปรับปรุงหนี้ และตัดหนี้สูญ ตามอำนาจที่กำหนด
การพิจารณากลั่นกรองหรืออนุมัติการลงทุน หรือขายหลักทรัพย์ที่ธนาคารลงทุน การซื้อขายหรือให้เช่าทรัพย์ของธนาคาร ตามอำนาจที่กำหนด
การพิจารณากลั่นกรองหรืออนุมัติแต่งตั้งผู้บริหาร ตามที่ได้รับมอบหมาย
การพิจารณากลั่นกรองหรืออนุมัติการว่าจ้างที่ปรึกษา การจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบการพัสดุ
การพิจารณากลั่นกรองแผนธุรกิจ งานนโยบายและงบประมาณประจำปี การติดตามงานที่มีความสำคัญที่คณะกรรมการธนาคารมอบหมาย
การพิจารณาอนุมัติหรือรับทราบกิจการอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการบริหารงานที่คณะกรรมการบริหารเห็นว่าจำเป็นหรือสมควรเป็นการเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งหากไม่ดำเนินการแล้วจะเกิดความเสียหายแก่ธนาคาร และรายงานให้คณะกรรมการธนาคารทราบโดยเร็ว
ดำเนินการอื่นใดตามที่คณะกรรมการธนาคารมอบหมาย
3.             คณะกรรมการตรวจสอบ
สอบถามให้ธนาคารมีการรายงานทางการเงิน อย่างเพียงพอถูกต้อง และเชื่อถือได้ เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป
สอบถามกับผู้สอบบัญชีถึงประเด็นสำคัญ ๆ อันอาจกระทบต่อความเชื่อถือได้ของรายงานทางการเงิน
สอบถามกรณีที่เกิดรายการที่เกี่ยวโยงกัน หรือรายการที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เพื่อพิจารณาการเปิดเผยข้อมูลของธนาคารและการบันทึกบัญชีให้มี ความถูกต้องและครบถ้วนโปร่งใส
สอบถามหลักฐานหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดำเนินการ ที่อาจมีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของธนาคารอย่างมีนัยสำคัญ หรือขัดแย้งทางผลประโยชน์ ที่อาจมีผลกระทบต่อการดำเนินงานของธนาคาร
สอบถามถึงข้อมูลที่นำส่งหน่วยงานกำกับดูแล ให้มีความสอดคล้องกับข้อมูลในรายงานทางการเงิน
4.             คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน
- กำหนดนโยบาย หลักเกณฑ์ และวิธีการ ในการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน รวมทั้งผลประโยชน์อื่นของกรรมการธนาคาร และผู้บริหารระดับสูง
- พิจารณาเสนอแนะนโยบายในภาพรวมเกี่ยวกับการกำหนดค่าตอบแทนและผลประโยชน์อื่นของธนาคาร
- สรรหาและคัดเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติ ตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด แล้วนำเสนอคณะกรรมการธนาคารเพื่อพิจารณาแต่งตั้งเป็นกรรมการธนาคารหรือผู้บริหารระดับสูงของธนาคาร
- ดูแลให้คณะกรรมการธนาคาร มีขนาดและองค์ประกอบที่เหมาะสมกับองค์กร รวมถึงมีการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป
- เสนอคณะกรรมการธนาคาร เพื่อพิจารณาแต่งตั้งกรรมการธนาคารแทนกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งตามข้อบังคับ
- ดูแลให้กรรมการและผู้บริหารระดับสูงของธนาคารได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมกับหน้าที่และความรับผิดชอบที่มีต่อธนาคาร
- กำหนดแนวทางและประเมินผลงานของผู้บริหารระดับสูง
- ดำเนินการอื่น ตามที่คณะกรรมการธนาคารมอบหมาย

5.             คณะกรรมการบรรษัทภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม
เสนอแนวนโยบายเกี่ยวกับหลักบรรษัทภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคมของธนาคารและบริษัทในเครือต่อคณะกรรมการธนาคาร
กำกับดูแลการปฏิบัติงานของธนาคารให้เป็นไปตามหลักบรรษัทภิบาลของสถาบันกำกับ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม
พิจารณาทบทวนเกี่ยวกับนโยบายด้านบรรษัทภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคมของธนาคารอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติของสากล และข้อเสนอแนะของสถาบันหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พิจารณาเสนอข้อพึงปฏิบัติที่ดี สำหรับคณะกรรมการธนาคาร หรือเสนอการกำหนดข้อบังคับคณะกรรมการธนาคาร และคณะกรรมการที่ธนาคารแต่งตั้งทุกชุด
-  เสนอแนะข้อกำหนดเกี่ยวกับจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจของธนาคาร และข้อพึงปฏิบัติของผู้บริหาร
ส่งเสริมการเผยแพร่วัฒนธรรมในการกำกับดูแลกิจการที่ดี และการมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนให้เป็นที่เข้าใจทั่วทุกระดับ และมีผลในทางปฏิบัติ
พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อยเพื่อทำหน้าที่สนับสนุนงานบรรษัทภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ได้ตามความเหมาะสม
การอื่นใดที่คณะกรรมการธนาคารมอบหมาย
6.             คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง
เสนอ/กำหนดนโยบายบริหารความเสี่ยงโดยรวมต่อคณะกรรมการธนาคาร ซึ่งครอบคลุมความเสี่ยงประเภทต่างๆที่สำคัญ ได้แก่ ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ ความเสี่ยงด้านเครดิต ความเสี่ยงด้านตลาด ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง ความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ และความเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อชื่อเสียงของกิจการ เป็นต้น
วางกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับนโยบายบริหารความเสี่ยง โดยสามารถประเมิน ติดตาม และดูแลปริมาณความเสี่ยงของธนาคารให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
ควบคุม ติดตาม ประเมินผลการบริหารความเสี่ยง และดูแลให้ธนาคารดำเนินการตามนโยบายและแนวทางบริหารความเสี่ยงที่ธนาคาร และหน่วยงานกำกับกำหนด
ทบทวนความเพียงพอของนโยบายและระบบบริหารความเสี่ยง รวมถึงความมีประสิทธิผลของระบบและการปฏิบัติตามนโยบายที่กำหนด
เสนอ/กำหนดนโยบายการบริหารความเสี่ยง และกำกับดูแลการบริหารความเสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินให้เป็นไปตามแนวทางการกำกับแบบรวมกลุ่ม (Consolidated Supervision) ของธนาคารแห่งประเทศไทย ตลอดจนควบคุมติดตามและประเมินความเสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินให้มีประสิทธิภาพและอยู่ในระดับที่ยอมรับได้
นำเสนอรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงต่อคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อรับทราบและ/หรือพิจารณาทุกเดือน และรายงานต่อคณะกรรมการธนาคารเพื่อทราบ และ/หรือพิจารณาทุกไตรมาส
- มีอำนาจที่จะเชิญฝ่ายจัดการหรือผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม และให้ข้อมูลหรือเอกสารในส่วนที่เกี่ยวข้องได้
ปฏิบัติหน้าที่อื่นใดตามที่ได้รับมอบหมาย
7.             คณะกรรมการกำกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์
ทำหน้าที่ช่วยคณะกรรมการธนาคารในการปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของธนาคาร เพื่อให้มั่นใจว่า ธนาคารและบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินมีการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับกฎหมาย กฎเกณฑ์ ข้อบังคับ มาตรฐาน และแนวปฏิบัติที่ใช้บังคับกับธุรกรรมต่างๆ ทั้งจากหน่วยงานทางการที่มีอำนาจตามกฎหมายหรือผู้กำกับสถาบันการเงิน และกฎระเบียบภายในธนาคาร
 2. Organization Chat ของสายงานต่างๆ
ธนาคารจะแบ่งกลุ่มงานออกเป็น 2 ลักษณะตามหน้าที่ความรับผิดชอบ ประกอบด้วย กลุ่มงานหลัก และกลุ่มงานที่ไม่ใช่งานหลัก
1.             กลุ่มงานสายงานหลัก
-                   สายงานธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย
-                   สายงานธุรกิจขนาดกลาง
-                   สายงานธุรกิจขนาดใหญ่ 1
-                   สายงานธุรกิจขนาดใหญ่ 2
-                   สายงานธุรกิจภาครัฐ
-                   สายงานธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์และบริการจัดการทางการเงิน
2.             กลุ่มงานที่ไม่ใช่สายงานหลัก
-                   สายงานบริหารการเงิน
-                   สายงานกำกับและบริหารงานกฎหมาย
-                   สายงานปรับโครงสร้างหนี้และบริหารทรัพย์สิน
-                   สายงานบริหารความเสี่ยง
-                   สายงานปฏิบัติการ
-                   สายงานตรวจสอบภายใน
-                   สายงานทรัพยากรบุคคลและบรรษัทภิบาล
-                   สายงานบริหารการตลาดและสื่อสารองค์กร
-                   กลุ่มยุทธศาสตร์ธนาคาร
3.             Organization Chat ของฝ่ายต่างๆ ในสำนักงานใหญ่
ฝ่ายต่างๆ จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบตาม Functional ของฝ่ายที่ได้รับมอบหมาย โดยจะอยู่ภายใต้กรอบแนวทาง การดำเนินงานตามเป้าหมายที่ได้วางไว้  จากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ และมีคณะกรรมการธนาคารซึ่งได้รับการรับเลือกจากผู้ถือหุ้นให้ทำหน้าที่ควบคุมดูแลการดำเนินงาน
4.             Organization Chat ของสำนักงานเขตและสาขา 
ธนาคารกรุงไทยมีสาขาทั้งหมด 1,167 สาขา โดยแบ่งเป็น
-                   สาขาในเขตกรุงเทพและเขตปริมณฑล  442  สาขา
-                   สาขาในภาคกลาง  105  สาขา
-                   สาขาในภาคเหนือ  172  สาขา
-                   สาขาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  212  สาขา
-                   สาขาในภาคตะวันออก  104  สาขา
-                   สาขาในต่างประเทศ  9  สาขา
      สาขาของธนาคารจะได้รับมอบอำนาจจากสำนักงานใหญ่ในการบริหารดูแลและสนับสนุน
ให้สามารถทำธุรกิจแข่งขันกับธนาคารอื่นได้ โดยในแต่ละสาขาจะมีผู้จัดการสาขาเป็นผู้ควบคุมดูแลกิจการในการดำเนินการให้บรรลุตามเป้าหมาย
ที่มา รายประจำปีธนาคารกรุงไทย ปี 2556

 คณะกรรมการบริหาร
นางอรุณภรณ์ ลิ่มสกุล          กรรมการธนาคาร ประธานกรรมการบรรษัทภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม และกรรมการบริหาร
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล     กรรมการธนาคาร และประธานกรรมการบริหาร
นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์            กรรมการธนาคาร กรรมการบริหาร และกรรมการบรรษัทภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม
นายวรภัค ธันยาวงษ์              กรรมการผู้จัดการใหญ่ กรรมการบริหาร และกรรมการบริหารความเสี่ยง


คณะกรรมการธนาคาร
นายวรวิทย์ จำปีรัตน์             ประธานกรรมการธนาคาร
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล     กรรมการธนาคาร และประธานกรรมการบริหาร
นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์         ประธานกรรมการอิสระ ประธานกรรมการตรวจสอบ และกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน
นายนนทิกร กาญจนะจิตรา  กรรมการอิสระ ประธานกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน กรรมการตรวจสอบ และกรรมการกำกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์
นางอรุณภรณ์ ลิ่มสกุล          กรรมการธนาคาร ประธานกรรมการบรรษัทภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม และกรรมการบริหาร
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์    กรรมการอิสระ ประธานกรรมการบริหารความเสี่ยง ประธานกรรมการกำกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ และกรรมการตรวจสอบ
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ      กรรมการธนาคาร กรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน และกรรมการบริหารความเสี่ยง
นายวีรภัทร ศรีไชยา              กรรมการอิสระ กรรมการบรรษัทภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม และกรรมการบริหารความเสี่ยง
นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์            กรรมการธนาคาร กรรมการบริหาร และกรรมการบรรษัทภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม
นายกัลยาณะ วิภัติภูิมิประเทศ              กรรมการอิสระ และกรรมการกำกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์
นายสมชาย พูลสวัสดิ์            กรรมการธนาคาร และกรรมการบรรษัทภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม
นายวรภัค ธันยาวงษ์              กรรมการผู้จัดการใหญ่ กรรมการบริหาร และกรรมการบริหารความเสี่ยง

คณะกรรมการตรวจสอบ
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์    กรรมการอิสระ ประธานกรรมการบริหารความเสี่ยง ประธานกรรมการกำกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ และกรรมการตรวจสอบ
นายนนทิกร กาญจนะจิตรา  กรรมการอิสระ ประธานกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน กรรมการตรวจสอบ และกรรมการกำกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์
นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์         ประธานกรรมการอิสระ ประธานกรรมการตรวจสอบ และกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน

ธนาคารกรุงไทย
สาขาในประเทศไทย มีทั้งหมด 1,167 สาขา (ข้อมูลจากรายงานประจำปี : ณ วันที่ 31 มกราคม 2557)
สาขาในเขตกรุงเทพ      298 สาขา                                             
สาขาในเขตปริมณฑล  144  สาขา
-นครปฐม 20 สาขา
-นนทบุรี 29 สาขา
-ปทุมธานี 26 สาขา
-สมุทรปราการ 28 สาขา
-สมุทรสาคร 11สาขา
สาขาในภาคกลาง  105  สาขา
-กาญจนบุรี 12 สาขา
-ชัยนาท 4 สาขา
-เพชรบุรี 6 สาขา
-ประจวบคีรีขันธ์ 10 สาขา
-ราชบุรี 14 สาขา
-พระนครศรีอยุธยา 15 สาขา
-สิงห์บุรี 3 สาขา
-ลพบุรี 11 สาขา
-สุพรรณบุรี 12 สาขา
-สมุทรสงคราม 2 สาขา
-อ่างทอง 12 สาขา
-สระบุรี 12 สาขา
สาขาในภาคเหนือ  172  สาขา
-กำแพงเพชร 9 สาขา
-เชียงราย 16 สาขา
-เชียงใหม่ 40 สาขา
-ตาก 6 สาขา
-นครสวรรค์ 15 สาขา
-พิษณุโลก 16 สาขา
-น่าน 3 สาขา
-พะเยา สาขา
-เพชรบูรณ์สาขา
-พิจิตร 7 สาขา
-แพร่ 4 สาขา
-แม่ฮ่องสอน 4 สาขา
-อุตรดิตถ์ 8 สาขา
-ลำปาง 10 สาขา
-ลำพูน 6 สาขา
-สุโขทัย 7 สาขา

สาขาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  212  สาขา
-กาฬสินธุ์ 5 สาขา
-ขอนแก่น 25 สาขา
-ชัยภูมิ 10 สาขา
-นครพนมสาขา
-นครราชสีมา 28 สาขา
-บุรีรัมย์ 12 สาขา
-มหาสารคาม 11 สาขา
-มุกดาหาร 4 สาขา
-ยโสธร 6 สาขา
-ร้อยเอ็ด 13 สาขา
-เลย 5 สาขา
-ศรีสะเกษ 9 สาขา
-สกลนคร 9 สาขา
-สุรินทร์ 11 สาขา
-หนองคาย 13 สาขา
-หนองบัวลำภู 3 สาขา
-อุบลราชธานี 23 สาขา
-อุดรธานี 17 สาขา
-อำนาจเจริญสาขา

สาขาในภาคตะวันออก  104  สาขา
-จันทบุรี 12 สาขา
-ฉะเชิงเทรา 15  สาขา
-ชลบุรี 43 สาขา
-ตราด 5 สาขา
-นครนายก 3 สาขา
-ปราจีนบุรี 5 สาขา
-ระนอง 16 สาขา
-สระแก้ว 5 สาขา
สาขาในภาคใต้  162  สาขา
-กระบี่ 10 สาขา
-ชุมพร 8 สาขา
-ตรัง 13 สาขา
-นครศรีธรรมราช 21  สาขา
-นราธิวาส 5 สาขา
-ปัตตานี 4 สาขา
-พังงา 5 สาขา
-พัทลุง 7 สาขา
-ภูเก็ต 14 สาขา
-ยะลา 8 สาขา
-ระนอง 3 สาขา
-สงขลา 31 สาขา
-สตูล 4 สาขา
-สุราษฎร์ธานี 29 สาขา



สาขาในต่างประเทศ  9  สาขา
-สาขาอุนหมิง (ประเทศจีน)                                                  -สาขาสิงค์โปร์  (ประเทศสิงคโปร์)
-สาขาย่อยจัหวัดเสีบมเรียบ (ประเทศกัมพูชา)                       -สาขาเคย์แมน (หมู่เกาะเคย์แมน ประเทศคิวบา)
-สาขานครหลวงเวียงจันทน์  (ประเทศลาว)
-สนง.ผู้แทนย่างกุ้ง (ประเทศพม่า)
-สาขาพนมเปญ (ประเทศกัมพูชา)
-สาขามุมไบ  (ประเทศอินเดีย)
-สาขาลอสแองเจลิส (ประเทศสหรัฐอเมริกา)